สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ขั้นตอนการบำรุงชมพู่

ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อชมพู (ทุกสายพันธุ์)        

     1. เรียกใบอ่อน                      
         ทางใบ :                      
         ให้น้ำ 100 ล. + 46-0-0 (200 กรัม)  หรือ  25-5-5 (400 กรัม) สูตรใดสูตรหนึ่ง+ จิ๊บเบอเรลลิน 10 ซีซี. + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.ฉีดพ่นพอเปียกใบ  ทุก  5-7  วัน                 
          ทางราก :                
        - ให้น้ำหมักชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7 (½-1) กก./ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
        - ให้น้ำเปล่า  ทุก  3-5  วัน                
     
          หมายเหตุ :                 
        - ใบอ่อนเมื่อออกมาแล้วต้องระวังโรคและแมลงศัตรูเข้าทำลายใบเพราะหากใบอ่อนชุดใดชุดหนึ่งถูกทำลายเสียหายจะต้องเริ่มเรียกชุดที่ 1 ใหม่ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาและกำหนดระยะการออกดอกติดผลต้องเลื่อนออกไปอีกด้วย                  
        - เรียกใบอ่อนโดยการใส่ปุ๋ยทางรากสูตร  25-7-7  จะช่วยให้ได้ใบที่มีขนาดใหญ่  มีพื้นที่หน้าใบสังเคราะห์อาหารมาก  และคุณภาพดีกว่าใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ                
        - หลังจากให้ทางใบไปแล้ว 5-7 วัน ถ้าแตกใบอ่อนน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ให้ฉีดพ่นซ้ำรอบสองด้วยอัตราและวิธีการเดิม                
        - ชมพู่ต้องการใบอ่อน 2 ชุด  ถ้าต้นสมบูรณ์ดี มีการเตรียมดินและปรับปรุงบำรุงดินสม่ำเสมอต่อเนื่องมาหลายๆปีแล้ว  หลังจากใบอ่อนชุดแรกเพสลาดแล้วให้เรียกใบอ่อนชุด 2 ต่อได้เลย  ใบชุด  2 นี้อาจจะออกไม่พร้อมกันทั้งต้นเหมือนชุดแรกแต่ก็จะออกห่างกันไม่เกิน 7-10 วัน และหลังจากใบอ่อนชุด 2 เพสลาดให้เข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามปกติ..........ถ้าต้นแตกใบอ่อนไม่พร้อมกันทั่วทั้งต้นจะส่งผลเสียหลายอย่างตั้งแต่การเร่งใบอ่อนเป็นใบแก่  การสะสมอาหารเพื่อการออก  การปรับ ซี/เอ็น เรโช.  การเปิดตาดอก  ซึ่งจะออกดอกไม่พร้อมกันทั่วทั้งต้น  และเมื่อดอกออกไม่พร้อมกันก็กลายเป็นผลไม่พร้อมกันทำให้ยุ่งยากต่อการปฏิบัติบำรุงตามขั้นตอนอย่างมาก.....แก้ไขโดยบำรุงเรียกใบอ่อนให้ออกมาเป็นชุดเดียวพร้อมกันทั้งต้นให้ได้            

       2. เร่งใบอ่อนเป็นใบแก่                  
           ทางใบ :                                   
         - ให้น้ำ 100 ล.+ 0-21-74 (200 กรัม) หรือ 0-39-39 (200 กรัม) สูตรใดสูตรหนึ่ง + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร  250 ซีซี.   ฉีดพ่นพอเปียกใบ  1-2 รอบห่างกันรอบละ 3-5 วัน                  
         - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                
           ทางราก :                
         - ให้  8-24-24 (1/2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.                
         - ให้น้ำปกติ  ทุก  2-3 วัน                
           หมายเหตุ :                
         - ลงมือบำรุงเมื่อใบอ่อนชุดแรกอกมาเริ่มแผ่กาง                 
         - วัตถุประสงค์เพื่อเร่งใบชุดใหม่ให้สามารถสังเคราะห์อาหารได้ และเร่งระยะเวลาเรียกใบอ่อนชุดต่อไปได้เร็วขึ้น  กับทั้งเพื่อให้ใบอ่อนรอดพ้นจากทำลายของแมลงปากกัดปากดูด
         - สารอาหารในกลุ่มเร่งใบอ่อนเป็นใบแก่มีฟอสฟอรัส.และโปแตสเซียม.) นอกจากช่วยเร่งใบอ่อนเป็นใบแก่แล้วยังช่วยเสริมประสิทธิภาพขั้นตอนสะสมอาหารเพื่อการออกดอกได้ด้วย         

        3. สะสมอาหารเพื่อการออกดอก                  
            ทางใบ :                
          - ให้น้ำ 100 ล. + 0-42-56 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.  ทุก 5-7 วัน  ติดต่อกัน 2-3 รอบแล้วให้น้ำ 100 ล. + ฮอร์โมนไข่  25 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.  สลับ 1 รอบ ฉีดพ่นพอเปียกใบ  ติดต่อกัน 1-2  เดือน                 
          - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                
             ทางราก :                
          - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24 (1-2 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน
          - ให้น้ำปกติทุก 2-3 วัน                

             หมายเหตุ :                
           - เริ่มปฏิบัติหลังจากใบอ่อนชุดสุดท้ายเพสลาด                
           - ปริมาณ 8-24-24  หรือ 9-26-26  ใส่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณการติดผลในรุ่นที่ผ่านมา  กล่าวคือ  ถ้ารุ่นที่ผ่านมาติดผลดกมาก  ผลผลิตมีคุณภาพดีมาก  ให้ใส่ในปริมาณที่มากขึ้น  แต่ถ้ารุ่นที่ผ่านมาติดผลดกน้อยหรือไม่ติดผลเลยให้ใส่ในปริมาณปานกลาง
           - แนวทางบำรุงให้ต้นได้สะสมอาหารเพื่อการออกดอกไว้มากที่สุดควรเตรียมแผนใช้เวลาบำรุง 2-2  เดือนครึ่ง ในห้วงนี้ให้กลูโคสหรือนมสัตว์สด 2 รอบ โดยรอบแรกให้เมื่อเริ่มลงมือบำรุงและให้รอบสองห่างจากรอบแรก 20-30 วัน                 
           - การเพิ่มปริมาณปุ๋ยให้มากขึ้น  หมายถึง  การให้อัตราเดิมแต่ระยะเวลาให้ถี่ขึ้น  เช่น  จากเคยให้ 15 วัน/ครั้งก็ให้เปลี่ยนเป็น 10 วัน/ครั้ง                   
           - ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงขั้นต่อไป คือ ปรับ ซี/เอ็น เรโช. ให้ทบทวนความทรงจำเมื่อครั้งเรียกใบอ่อนแล้วใบอ่อนออกมาพร้อมกันเป็นชุดเดียวทั่วทั้งต้นหรือไม่ ถ้าใบอ่อนออกมาพร้อมกันดีทั่วทั้งต้นให้ปรับ ซี/เอ็น เรโช.ต่อไปได้เลย  แต่ถ้าใบอ่อนออกมาไม่พร้อมกันเป็นชุดเดียวทั่วทั้งต้นและค่อนข้างต่างรุ่นกันมากก็ให้บำรุงสะสมอาหารเพื่อการออกดอกต่อไปอีก 2-3 รอบ เพื่อรอให้ใบอ่อนชุดหลังสะสมอาหารจนอั้นตาดอกดีเท่ากับใบอ่อนชุดแรกจากนั้นจึงลงมือปรับ ซี/เอ็น เรโช.  ทั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อทำให้มีดอกออกมาพร้อมกันเป็นชุดเดียวกันทั่วทั้งต้นนั่นเอง       

       4. ปรับ  ซี/เอ็น  เรโช                  
           ทางใบ :                
         - ให้น้ำ  100  ล. + 0-42-56 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. 1-2 รอบ  ห่างกันรอบละ 5-7 วัน ฉีดพ่นพอเปียกใบ 
         - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                 
           ทางราก :               
         - เปิดหน้าดินโคนต้น                
         - งดน้ำเด็ดขาด                  

           หมายเหตุ :                
         - วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มปริมาณ ซี. (อาหารกลุ่มสร้างดอก-บำรุงผล) และลดปริมาณ เอ็น. (อาหารกลุ่มสร้างใบ-บำรุงต้น) ซึ่งจะส่งผลให้ต้นออกดอกหลังการเปิดตาดอก 
         - ต้นที่มีอาการอั้นตาดอกดีจนพอใจแล้วไม่ต้องฉีดพ่นกลูโคสหรือนมสัตว์สดเพิ่มอีกแต่ถ้าต้นมีอาการอั้นตาดอกไม่ดีหรือยังไม่น่าพอใจ  แนะนำให้ฉีดพ่นกลูโคสหรือนมสัตว์ทางใบอีกซ้ำอีก 1 รอบ  โดยเว้นระยะเวลาให้ห่างจากที่เคยให้เมื่อช่วงสะสมอาหารไม่น้อยกว่า 30-45 วัน                  
         - ก่อนลงมือปรับ ซี/เอ็น เรโช  จะต้องติดตามข่าวพยากรณ์อากาศให้มั่นใจว่าระหว่างปรับ ซี/เอ็น เรโช จะต้องไม่มีฝนตก  เพราะถ้ามีฝนตกลงมา  มาตรการงดน้ำก็ต้องล้มเหลว 
         - ขั้นตอนการปรับอัตราส่วน  ซี/เอ็น  เรโช. จะสมบูรณ์ดีหรือไม่ให้สังเกตจากต้น  ถ้าต้นเกิดอาการใบสลดแสดงว่าในต้นมีปริมาณ ซี.มากส่วนปริมาณ เอ็น.เริ่มลดลง และความพร้อมของต้นก่อนลงมือเปิดตาดอก สังเกตได้จากลักษณะใบใหญ่หนาเขียวเข้ม  กิ่งช่วงปลายและใบกรอบเปราะ  ข้อใบสั้น  หูใบอวบอ้วน                
         - การให้สารอาหารทางใบซึ่งมีน้ำเป็นส่วนผสมนั้น  อย่าให้โชกจนตกลงถึงพื้นเพราะจะกลายเป็นการให้น้ำทางราก  แนวทางปฏิบัติ คือ ให้บางๆเพียงเปียกใบเท่านั้น
         - เมื่องดน้ำ (ไม่รดน้ำ) แล้วต้องควบคุมปริมาณน้ำใต้ดินโคนต้นไม่ให้มากเกินไปโดยการทำร่องระบายน้ำใต้ดินหรือร่องสะเด็ดน้ำด้วย                

         - กรณีสวนยกร่องน้ำหล่อต้องใช้ระยะเวลาในการงดน้ำนานมากกว่าจึงจะทำให้ใบสลดได้  อาจส่งผลให้แผนการผลิตที่กำหนดไว้คลาดเคลื่อน ดังนี้จึงจำเป็นต้องสูบน้ำออกตั้งแต่ก่อนปรับ ซี/เอ็น เรโช  โดยกะคะเนให้ดินโคนต้นแห้งถึงขนาดแตกระแหงและมีความชื้นไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ตรงกับช่วงปรับ ซี/เอ็น เรโช  พอดี        

       5. สำรวจความพร้อมของต้น                
           - เนื้อใบหนาเขียวเข้มส่องแดดไม่ทะลุ  เส้นใบนูนเด่น  หูใบอวบอ้วน  ข้อใบสั้น  ใบคู่สุดท้ายปลายกิ่งแก่จัด  กิ่งช่วงปลายกลมเปราะหักง่าย  มองจากภายนอกระยะไกลๆเห็นความสมบูรณ์ทางทรงพุ่มชัดเจน                 
           - ผิวเปลือกตามลำต้นสดใสมีอาการแตกปริ                  
           - รากใหญ่จำนวนมาก  ปลายราก (หมวกราก) ยาวอวบอ้วนสดใส       

        6. ตรวจสอบสภาพอากาศ                
            ก่อนลงมือเปิดตาดอกให้ตรวจสอบข่าวสภาพอากาศให้แน่ใจว่าในอีก 15-20 วันข้างหน้าหรือวันที่ช่อดอกเริ่มแทงออกมานั้นจะต้องไม่มีฝนตกหรือมีสภาพอากาศปิด (ครึ้มฟ้าครึ้มฝน) เพราะสภาพอากาศปิดหรือมีฝนต้นชมพู่จะเปิดตาดอกไม่ออก แม้จะอั้นตาดอกดีเพียงใดก็ตาม แต่กลับแทงใบอ่อนออกมาแทน กรณีนี้ให้ระงับการเปิดตาดอกไว้ก่อนแล้วบำรุงต้นด้วยสูตร  สะสมอาหารเพื่อการออกดอก  ต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าในวันที่ช่อดอกออกมานั้นไม่มีฝนหรืออากาศเปิดแน่จึงลงมือเปิดตาดอก                
            ชมพู่บางสายพันธุ์ไม่ค่อยมีปัญหาต่อการเปิดตาดอกช่วงอากาศปิด  แม้ว่าหลังจากเปิดตาดอกแล้วมีฝนตกจนต้นแตกใบอ่อนออกมาก็ให้ถือใบอ่อนนั้นเป็นการเริ่มบำรุงขั้นตอนที่ 1ใหม่  รอจนกระทั่งใบอ่อนเพสลาดให้ใส่ปุ๋ยทางราก 8-24-24 หรือ 9-26-26 (1/2-1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 5 ม.ควบคู่กับการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ 0-42-56 + แคลเซียมโบรอน จำนวน 1-2 รอบห่างกันรอบละ 5-7 วัน ชมพู่สายพันธุ์ที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องอากาศปิดนั้นก็จะแทงช่อดอกออกมาให้ปรากฏได้  ถ้าให้ทางใบด้วย 0-42-56 ไปแล้ว 2 รอบยังไม่ออกดอกก็ให้เปิดตาดอกด้วย 13-0-46 ต่ออีก 1-2 รอบ   คราวนี้ถ้ายังไม่ออกอีกก็ต้องรอให้อากาศเปิดแล้วจึงเปิดตาดอก         

        6. เปิดตาดอก                
           
 ทางใบ :                
            สูตร 1
 ....... ให้น้ำ 100 ล. + สาหร่ายทะเล 100 ซีซี. + ฮอร์โมนไข่  100 ซี
ซี. +ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.                
            สูตร 2 ....... ให้น้ำ 100 ล. +13-0-46 (500 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100
ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. 
            เลือกใช้สูตรใดสูตรหนึ่งหรือทั้งสองสูตรแบบสลับครั้งกัน  ห่างกันครั้งละ 5-7 วัน  
ฉีดพ่นพอเปียกใบ                                  
            ทางราก :                
          - ให้ 8-24-24 หรือ 9-26-26  สูตรใดสูตรหนึ่ง (½ กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
          - ให้น้ำปกติทุก 2-3 วัน                 

            หมายเหตุ :                
          - เลือกใช้ให้ทางใบด้วยสูตรใดสูตรหนึ่งหรือใช้ทั้งสองสูตรแบบสลับครั้งกันก็ได้
          - ต้นที่มีอาการอั้นตาดอกดีและสภาพอากาศพร้อมสำหรับเปิดตาดอกให้เปิดตาดอกด้วย 13-0-46  ถ้าอั้นตาดอกดีแต่ไม่แน่ใจว่าสภาพอากาศจะอำนวยหรือไม่ก็ให้เปิดตาดอกด้วย 0-42-56                        
          - หลังจากเปิดตาดอกแล้ว ถ้าดอกออกมาไม่มากพอ ระหว่างที่ดอกชุดแรกยังเป็นดอกตูมอยู่นั้น  ให้เปิดตาดอกซ้ำอีก 1-2 รอบด้วยสูตรเดิม หรือจนกระทั่งดอกชุดแรกบานแล้วจึงยุติการเปิดตาดอกซ้ำ        

       6. บำรุงดอก                
           ทางใบ :               
         - ให้น้ำ  100 ล. + 15- 45-15 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม  100  ซีซี. + เอ็นเอเอ. 100 ซีซี. + ฮอร์โมนไข่ 25 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.  ทุก 5-7 วัน  ฉีดพ่นใบพอเปียกใบ                   
         - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร ทุก  3  วัน                   
           ทางราก :                
         - ยังคงเปิดหน้าดินโคนต้นเช่นเดิม                   
         - ให้  8-24-24 หรือ 9-26-26  สูตรใดสูตรหนึ่ง (½-1 กก)./ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
         - ให้น้ำพอหน้าดินชื้น                

           หมายเหตุ :                
         - ให้ฮอร์โมนจิ๊บเบอเรลลินเดี่ยวๆรอบที่ 1 เมื่อเห็นว่าดอกออกมามากจนพอใจแล้ว
         - ถ้ามีดอกออกมาแล้วมีใบออกมาด้วย  ให้ใช้ 0-42-56  แทน 15-45-15 เพื่อกดใบอ่อน                  
         - ฉีดพ่นสารอาหารเพื่อบำรุงดอกด้วยเครื่องมือฉีดพ่นที่มีแรงลมพ่นเบาที่สุดตามความเหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อส่วนต่างๆของดอก  ฉีดพ่นที่ช่อดอกโดยตรงพอเปียกหรือฉีดพ่นให้ทั่งทรงพุ่มพอเปียกใบก็ได้                
         - บำรุงดอกช่วงฝนชุกให้เน้น  “สังกะสี และ แคลเซียม โบรอน”  โดยให้เมื่อดอกออกมาแล้วหรือให้แบบสะสมล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเปิดตาดอก ด้วยวิธีให้เดี่ยวๆหรือผสมรวมไปกับธาตุอาหารอื่นๆก็ได้                
         - การไม่ใช้สารเคมีมาเป็นเวลานานๆจะทำให้มีผึ้งหรือแมลงธรรมชาติอื่นๆเข้ามาช่วยผสมเกสรหรือมีสายลมช่วยพัดละอองเกสรตัวผู้ (ต่างต้น) ไปผสมกับเกสรตัวเมีย ก็จะช่วยให้ติดผลดกขึ้น         

         7. บำรุงผลเล็ก                
             ทางใบ :                 
           - ให้น้ำ 100 ล. + 21-7-14 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ แคลเซียมโบรอน 100 ซีซี. + ฮอร์โมนไข่ 25 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.  ฉีดพ่นพอเปียกใบ ทุก 5-7 วัน
           - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                
             ทางราก :                
           - นำอินทรีย์วัตถุกลับเข้าคลุมโคนต้นให้เหมือนเดิม                  
           - ใส่ยิบซั่มธรรมชาติ 10 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการใส่เมื่อช่วงเตรียมดิน
           - ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7 (1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./ครั้ง/เดือน
                 
           - ให้น้ำปกติทุก 2-3 วัน                
             
             หมายเหตุ :                 
           - เริ่มปฏิบัติหลังจากกลีบดอกร่วง  หรือขนาดผลเท่าเมล็ดถั่วเขียว     

        8. บำรุงผลกลาง                    
            ทางใบ :                
          - ให้น้ำ 100 ล. + 21-7-14 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + ไคโตซาน100 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.  ทุก 7-10 วัน  ฉีดพ่นพอเปียกใบ
          - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                
            ทางราก :                
          - ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง +  21-7-14  (1/2 กก)/ต้น/ครั้ง/เดือน
          - ให้น้ำปกติ  ทุก 2-3 วัน                
    
            หมายเหตุ :                
          - เริ่มปฏิบัติเมื่อเมล็ดเริ่มเข้าไคล การที่จะรู้ว่าผลเริ่มเข้าไคลแล้วจะต้องใช้วิธีสุ่มเก็บผลมาผ่าดูเมล็ดภายใน                
          - ถ้าต้นติดผลดกมากควรให้ฮอร์โมนน้ำดำ กับ แคลเซียม โบรอน 1-2 รอบ โดยแบ่งให้ตลอดระยะผลกลางจะช่วยให้ต้นไม่โทรมเนื่องจากรับภาระเลี้ยงผลมาก        

       9. บำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยว                   
           ทางใบ :                
         - ให้น้ำ 100 ล. + 0-21-74 (200 กรัม)  หรือ  0-0-50 (200 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + ฮอร์โมนไข่  25 ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. หรือ น้ำ 100 ล. + มูลค้างคาวสกัด 100 ซีซี. + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.  1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วันก่อนเก็บเกี่ยว  ฉีดพ่นพอเปียกใบ                 
        - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน                
          ทางราก :               
        - เปิดหน้าดินโคนต้นแล้วงดน้ำ                
        - ให้  13-13-21  หรือ  8-24-24 สูตรใดสูตรหนึ่ง (1 กก.)/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม.
                
          หมายเหตุ :                
        - เริ่มปฏิบัติก่อนเก็บเกี่ยว 10-20 วัน                                                
        - การบำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยวช่วง  “หน้าแล้ง”  โดยให้ 0-0-50 หรือ 0-21-74 ทางใบ  กับให้ 13-13-21 หรือ 8-24-24 ทางราก  จะทำให้ชมพู่มีรสหวานจัดมาก  ดังนั้นช่วงหน้าแล้งจึงไม่จำเป็นต้องให้ทางใบ  ให้เฉพาะทางรากอย่างเดียวก็พอ  แต่ถ้าให้ทั้งทางใบและทางรากรสจะหวานจัดจนแสบคอ                
        - การบำรุงผลแก่ก่อนเก็บเกี่ยวช่วง  “หน้าฝน”  ควรให้ทางทางรากและทางใบคู่กัน โดยให้ทางใบด้วย 0-0-50 หรือ 0-21-74  กับให้ทางรากด้วย 8-24-24  หรือ  9-26-26  ให้ไปเรื่อยๆ  จนกว่าจะหมดฝน  และเมื่อหมดฝนแล้วให้งดน้ำพร้อมกับบำรุงต่อไปอีก 10-15 วัน  ก็จะได้รสหวานพอดี             
        - การบำรุงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวโดยให้ทางรากด้วย 8-24-24 หรือ 9-26-26  เหมาะสำหรับต้นที่มีผลหลายรุ่นซึ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลแก่รุ่นแรกไปแล้วจะช่วยบำรุงผลชุดหลังต่อ นอกจากนี้ยังทำให้ต้นไม่โทรมเหมาะสำหรับการเตรียมความพร้อมต้นต่อการปฏิบัติบำรุงรุ่นปีต่อไปอีกด้วย  

view