สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สวนผู้ใหญ่เสวต


ที่อยู่ : เขายายดา ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง หมายเลขโทรศัพท์ : 08 9179 6288
ผลไม้ : ทุเรียน เงาะ มังคุด
กิจกรรม : ชมสวน ชิมผลไม้ ขนมจีนข้าวกล้อง อาหารพื้นเมือง

ชาวบ้านเข้มรักษาป่าชุมชนบ้านศาลเจ้า
"ขนมจีนข้าวกล้อง" สมุนไพรอันลือชื่อ

        "เมืองระยอง" หรือจ.ระยองเป็นเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก ในอดีตโบราณถูกเล่าขานว่าเป็นเมืองแห่งกวีศรีรัตนโกสินทร์ “สุนทรภู่” ผู้มีผลงานวรรณกรรมประเภทร้อยแก้วที่ยากจะหา ผู้ใดมาเทียบเทียม โดยเฉพาะนิทานกลอนสุภาพเรื่อง "พระอภัยมณี" โดยฉากในนิทานเรื่องนี้ คือบริเวณหมู่เกาะน้อยใหญ ่และท้องทะเลที่สวยงามในจ.ระยองนั่นเอง นอกจากความงดงามของธรรมชาติ จ.ระยองยังเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่สำคัญ เป็นแหล่งปลูกผลไม้เมืองร้อนที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะ เงาะ ทุเรียน มังคุด

  ที่ผมเกริ่นถึงจ.ระยองก็ไมใช่อะไรหรอกครับเผอิญมีโอกาสมากิน "ขนมจีนข้าวกล้อง" และมีส่วนผสมของสมุนไพรจากป่าชุมชนของชาวบ้าน เริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมครับมันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับจ.ระยอง มื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสเดินทางมาศึกษาดูงาน "ป่าชุมชน" พร้อมกับสื่อมวลชนคนอื่นๆ ที่กรมป่าไม้นำพามา และนำพามาถึงชุมชนบ้านศาลเจ้า ม.11 ต.ตะพง อ.แกลง จ.ระยอง ที่ถูกเล่าขานว่าชุมชนบ้านศาลเจ้า เป็นชุมชนที่เข้มแข็งในการปกป้องผืนป่า
  "เสวตร บุญฤทธิ์" หรือผู้ใหญ่เสวตร ผู้นำป่าชุมชนบ้านศาลเจ้า บอกว่าเดิมที "บ้านศาลเจ้า" มีศาลเจ้าบริเวณป่าในหมู่บ้านจึงเรียกขานกันมาตั้งแต่ดั้งเดิมว่าบ้านศาล เจ้า ส่วนที่ตั้งป่าชุมชนห่างจากชุมชนประมาณ 2 กม. มีเนื้อที่ 6 พันไร่ เป็นพื้นที่ทำกิน 3 พันไร่ สภาพป่าชุมชน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่ากะเฉด-เพ-แกลง โดยได้รับการอนุญาติเมื่อปี 2552 เนื้อที่ 700 ไร่ โดยสภาพป่าเป็นป่าดิบแล้ง และเป็นป่าปลูกเสริม สำหรับชุมชนบ้านศาลเจ้า มีประชากร 204 ครัวเรือน แยกเป็นชาย 494 คน และหญิง 510 คน ส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก

  ผลพวงจากความเข้มแข็งของชาวบ้านชุมชนบ้านศาลเจ้า ที่ช่วยกันดูแลปกป้องป่าชุมของตนเอง ทำให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์จากการเก็บหาของป่าที่เป็นแหล่งอาหาร ที่มีทั้งพืชอาหาร อาทิ หน่อไม้ เห็ด มะไฟ สะตอ แต้ว ระกำ ลูกซกหรือต๋าว และสมุนไพร อีกนานาชนิดนับไม่ถ้วน

  หลายคนที่สงสัย "ขนมจีน" ที่ผมพูดถึงในตอนแรกคงพอเริ่มนึกภาพออกแ ล้วใช่ไหมครับว่ามันเกี่ยวโยงกับป่าชุมของชาวบ้านอย่างไร เพราะสมุนไพรในป่าชุมชนของชาวบ้านส่วนหนึ่งถูกนำมาเป็นองค์ประกอบของ "ขนมจีน" โดยเฉพาะน้ำยาที่กินกับขนมจีนข้าวกล้อง ที่ผมไปลิ้มชิมรสมาแล้วถึงบ้านผู้ใหญ่เสวตร ที่เป็นที่ทำการของกลุ่ม
สตรีแม่บ้านของบ้านศาลเจ้า

  เมื่อปี 2542 จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงแนะนำให้คนไทยหันมารับประทานข้าวกล้องกันมากขึ้น โดยพระองค์ท่านทรงเล็งเห็นคุณประโยชน์ของสารอาหารที่มีอยู่อย่างหลากหลายใน ข้าวกล้อง นับแต่นั้นข้าวกล้องจึงกลายเป็นที่รู้จักแพร่หลาย มากยิ่งขึ้น จากพระราชดำริของในหลวงนี้เองที่ทำให้กลุ่มสตรีแม่บ้าน บ้านศาลเจ้า ได้รวมกลุ่มกันทำขนมจีนข้าวกล้องขึ้นมา และเป็นอาชีพเสริมนอกเหนือจากทำสวนผลไม้ โดยแบ่งงานกันตามความถนัดของแต่ละคน ใครมีแรงมากหน่อยก็กดแป้ง  ส่วนรายได้จากการขายขนมจีนก็แบ่งให้สมาชิกและหักเป็นทุนเข้ากลุ่ม ส่วนหนึ่งสำหรับใช้ซื้ออุปกรณ์ในการผลิต และก็มาแบ่งกันเป็นรายได้ของแต่ละคนไป

  "ผู้ใหญ่เสวตร" บอกด้วยว่า ขนมจีนข้าวกล้องของเราเน้นที่ความสะอาดในขั้นตอนการทำเป็นพิเศษ   การกรองแป้งจะทำถึง 4-5 ครั้งด้วยกันจากนั้นจึงนำแป้งใส่ในกระบอกแล้วกดจะได้เส้นขนมจีนที่เหนียว นุ่ม น่ารับประทาน สามารถเก็บไว้ได้นานถึง 30 วัน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่คุณค่าของข้าวกล้อง ปัจจุบันตลาดใหญ่ของกลุ่มสตรีแม่บ้านฯ คือโรงแรม ต่าง ๆ ในจ.ระยอง

  นอกจากนี้ในแต่ละวันก็จะมีรถมารับถึงที่โดยเอาไปวางขายที่ร้าน 1 ตำบล 1  ผลิตภัณฑ์ ใกล้แยกตะพง ทำให้ชาวบ้านไม่ต้องเสียเวลาไปเดินเร่ขาย จากความนิยมของลูกค้านี้เอง ทำให้ทางกลุ่มเริ่มที่จะมีการดัดแปลงเป็นขนมจีนข้าวกล้องแฟนซี  มีสีต่างๆ ให้ลูกค้าได้เลือกมากขึ้น  อาทิ   ขนมจีนข้าวกล้องใบเตยเป็นสีเขียว ขนมจีนข้าวกล้องฟักทองเป็นสีเหลือง และขนมจีนข้าวกล้องแครอทเป็นสีส้ม ที่สำคัญขนมจีนข้าวกล้องของกลุ่มสตรีแม่บ้านฯ ยังได้รับเครื่องหมาย อย.รับรองคุณภาพอีกด้วย

  ท้ายสุดของเรื่องฝากไว้นิดนึงครับ... "คนไทยต้องช่วยกัน" ใช้ของไทยกินของไทย....หากใครมีโอกาสแวะผ่านมาที่บ้านศาลเจ้า "ผู้ใหญ่เสวตร" รูปร่างท่วมใจดี บอกขอเรียนเชิญเมื่อแวะเข้ามาที่บ้านศาลเจ้าแล้ว สามารถมานั่งรับประทานขนมจีนข้าวกล้องกันได้จนอิ่ม สงนราคาชาวบ้านครับ จะเติมสักกี่จานก็ได้ โดยมีน้ำยาให้เลือกหลายอย่าง ทั้งน้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริก แกงเขียวหวาน แต่ที่สุดๆที่ผมชอบเหลือเกินเห็นจะเป็นน้ำยาป่า สุดๆครับพี่น้อง...วันนี้ขอกล่าวคำว่าสวัสดีครับ แล้วพบกันใหม่....!!!!

บทความโดย : สายลับ 009
จาก http://citizen.thaipbs.or.th/bloger/template_permalink.asp?id=279

view