
กล้วยไข่
คุณลักษณะเฉพาะ
- สายพันธุ์แนะนำ คือ กล้วยไข่กำแพงเพชร (ดีที่สุด). ทองร่วงหรือค่อมเบา (ผลใหญ่/รสหวานติดเปรี้ยวเล็กน้อย). เคบี-2 และ เคบี-3
- ปลูกช่วงปลายฝนต้นหนาว (ส.ค.-ก.ย.) นอกจากช่วยให้ต้นโตเร็วแล้วยังเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ออกเครือช่วงหน้าแล้งได้อีกด้วย
- ชอบดินร่วนปนทราย มีอินทรีย์วัตถุมากๆ โปร่ง ไม่ชอบอากาศร้อนจัดหรือหนาวจัดเกินไป
- ค่อนข้างอ่อนแอต่อน้ำขังแฉะโคนต้นและดินเหนียวอุ้มน้ำ เพราะฉะนั้นนอกจากต้องเตรียมแปลงปลูกสูงๆแล้วยังต้องมีระบบระบายน้ำจากแปลง ปลูก และระบบสะเด็ดน้ำไม่ให้ขังค้างในเนื้อดินโคนต้นอีกด้วย
- ปลูกในพื้นที่อากาศหนาวเย็นจะออกเครือช้า ปลูกในพื้นที่อากาศร้อนเกินไปจะเกิดอาการใบไหม้ โตช้า บางครั้งถึงแคะแกร็น หรือต้นชะงักการเจริญเติบโต
- จัดแปลงปลูกแบบลูกฟูกยกร่องแห้งแล้วให้น้ำโชกๆผ่านไปตามร่องระหว่างสัน ลูกฟูกจะช่วยให้ดินมีน้ำและความชื้นพอดีต่อความต้องการของกล้วยไข่
- ช่วงที่ต้นกำลังเจริญเติบโตถ้าเกิดอาการใบสลดแสดงว่าขาดน้ำ
- ระยะปลูกที่พอดี 2.5 X 2 ม. พื้นที่ 1 ไร่ปลูกได้ 320 ต้น ไม่ควรปลูกห่างหรือชิดกว่านี้เพราะแต่ละต้นต้องการอาศัยบังแดดและลมซึ่งกัน และกัน
- ปลูกแบบขุดหลุมปลูกตื้น หรือให้บริเวณหัวเหง้าต่อกับลำต้นเสมอผิวดิน (ลึก 20-25 ซม.) แล้วใช้ดินปลูกถมพูนโคนต้นจะช่วยให้โตเร็วกว่าการปลูกลึกๆ การมีเศษหญ้าแห้งคลุมหนาๆโคนต้นกว้างเต็มพื้นที่ทรงพุ่มจะช่วยเก็บความชุ่ม ชื้นหน้าดินส่งผลให้หน่อแตกรากใหม่เร็ว
- ปลูกหน่อลงหลุมแล้วกดดินพอกระชับราก พูนโคนต้นด้วยอินทรียวัตถุ และเศษพืชแห้งหนาๆแผ่ทั่วบริเวณทรงพุ่ม
- อายุต้นหลังปลูก 3-4 เดือนเริ่มแทงหน่อ เมื่อหน่อสูง 50-80 ซม.ให้ตัดหน่อเหลือตอสูงจากพื้น 15-20 ซม. และตัดซ้ำทุกครั้งที่หน่อสูง 50-80 ซม. โดยให้รอยตัดครั้งหลังสูงกว่ารอยตัดครั้งก่อน 5-10 ซม.เสมอ จนกระทั่งต้นแม่อายุ 7-8 เดือนให้เลือกหน่อชิด 1-2 หน่อเพื่อแทนต้นแม่หลังจากตัดเครือและล้มต้นแม่แล้ว หน่อที่เลือกไว้นี้ไม่ต้องตัดต้นอีก ส่วนหน่อตามหรือหน่ออื่นๆให้ตัดต้นตามปกติ
- ช่วงแทงปลียาวออกมาแล้ว (ยังไม่ตัดหัวปลี) ใช้ปุ๋ยทางใบสูตร 15-45-15 (200 กรัม)/น้ำ 20 ล. ฉีดเข้าที่ก้านของปลีพอเปียก 1-2 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วันจะช่วยให้การติดผลได้จำนวนหวีมากขึ้น
- การไว้หน่อเพื่อแทนต้นแม่หลังตัดเครือแล้วสำหรับรุ่นปีต่อไปนั้น หน่อแต่ละรุ่นควรมีอายุห่างกัน 4-5 เดือนเสมอ
- แยกหน่อจากต้นแม้ด้วยความประณีตให้คงมีรากเดิมติดเหง้ามามากที่สุดเท่าที่จะ มากได้และอย่าให้รากที่ติดมานั้นกระทบกระเทือนมากนัก การมีดินเดิมห่อหุ้มรากขณะเคลื่อนย้ายจะช่วยให้รากชุ่มชื้นอยู่เสมอ เมื่อนำลงปลูกจะยืนต้นได้เร็ว
* ได้หน่อมาแล้วควรนำลงปลูกโดยเร็วไม่ควรทิ้งไว้นาน ถ้าจำเป็นต้องทิ้งไว้นานให้พรมน้ำแล้วห่อหุ้มเหง้าและรากด้วยกระดาษหนังสือ พิมพ์ รากเดิมที่ติดมากับเหง้าไม่ควรตัดทิ้งแต่ให้ปลูกพร้อมรากเดิมเลย กับทั้งต้องระวังการขุดแยกจากต้นแม่ ขณะเคลื่อนย้าย นำลงปลูก อย่าให้รากที่ติดอยู่กับเหง้าช้ำหรือกระทบกระเทือนมากนัก เพราะรากของกล้วยไข่สามารถเจริญต่อจากรากเดิมได้
- เลือกหน่อพันธุ์ลักษณะโคนใหญ่ ปลายเรียว ใบแคบ อายุ 3-4 เดือน
- อายุต้นตั้งแต่เริ่มปลูกถึงออกปลี 190-200 วัน หลังจากตัดปลีแล้ว 45-50 วันเก็บเกี่ยวได้ หรือตั้งแต่ออกปลีถึงเก็บเกี่ยว 60-70 วัน
- ผลผลิตทั่วๆไปอกสู่ตลาดช่วงเดือน ส.ค.- พ.ย.
- ช่วงที่ยังไม่ออกเครือให้ไว้ใบ 10-12 ใบ และช่วงที่ออกเครือแล้วให้ไว้ใบ 8-9 ใบ จะทำต้นไม่เฝือใบ ไม่โทรม และให้ได้ผลผลิตดี
- หลังจากตัดปลีแล้ว 20-30 วัน ให้ห่อเครือด้วยถุงสีฟ้าขนาดใหญ่ เปิดก้นถุง เพื่อให้ลมผ่านและอากาศถ่ายเทสะดวก หรือห่อด้วยใบของเขาเอง
- ช่วงที่ต้นกำลังออกเครือระบบรากค่อนข้างอ่อนแอจึงไม่ควรให้ปุ๋ยทางรากเพราะ นอกจากอาจจะทำให้รากเน่าแล้ว ยังทำให้ผลแก่เร็วกว่ากำหนดทั้งๆที่ขนาดผลยังเล็ก และหลังจากเก็บเกี่ยวแล้วยังบ่มให้สุกช้าอีกด้วย เมื่อให้ปุ๋ยทางรากไม่ได้ก็ต้องให้ทางใบแทน
- หลังจากห่อผลแล้ว 30 วัน ใบบางส่วนจะเริ่มแห้ง ผลกลมไม่มีเหลี่ยม แสดงว่าผลแก่จัดเก็บเกี่ยวได้แล้ว
- ช่วงติดผลขนาดใหญ่ นำหนักเพิ่มขึ้น ถ้าต้นรับน้ำหนักไหวก็อาจจะไม่ต้องมีไม้ค้ำต้นแต่ถ้าเห็นว่าต้นคงรับน้ำหนัก ไม่ไหวแน่ก็ให้ค้ำต้น
- ไม่ควรปล่อยให้แก่จนสุกคาต้นเพราะจะทำให้กลิ่นและรสด้อยลง
- กล้วยไข่แจ็คพอต หมายถึง กล้วยไข่ที่แก่จัดใกล้สุก (ห่าม) หรือสุกพอดีตรงหรือก่อนเล็กน้อยกับช่วงวันสารทไทย การปลูกกล้วยไข่ให้ได้ผลผลิตตรงกับช่วงเทศกาลดังกล่าว สามารถทำได้โดยการนับระยะอายุจากวันตัดเครือย้อนหลังมาถึงวันที่ยืนต้นได้ 9 เดือน ให้ลงมือปลูกหน่อกล้วยก่อนวันที่ยืนต้นได้ 1-2 เดือน จากนั้นให้ปฏิบัติบำรุงตามขั้นตอนปกติ หรือลงมือปลูกหน่อก่อนวันสารทไทย 11-12 เดือน กล้วยไข่ต้นนั้นก็จะมีเครือให้ตัดได้ในวันสารทไทยพอดี