สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กระเจี๊ยบแดง



กระเจี๊ยบแดง

           ลักษณะทางธรรมชาติ      
       
 - เป็นพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว ปลูกได้ทุกภาค ทุกพื้นที่และทุกฤดูกาล       
    -
เป็นพืชกึ่งพืชไร่กึ่งพืชสวน ต้องการน้ำพอหน้าดินชื้นหรือต้องการความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ ถ้าขาดน้ำจะไม่เจริญเติบโต หรือดอกผลไม่มีคุณภาพ     
    -
ปลูกง่ายโตเร็ว ระบบรากตื้นหากินบริเวณผิวหน้าดิน การมีอินทรียวัตถุคลุมโคนต้นหรือคลุมแปลงหนาๆจะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตดี      
    -
เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุต้น 1 เดือนหลังปลูก        
    - ดอกสีชมพูอ่อน ออกตามข้อใบ ถ้าต้นได้รับสารอาหาร กลุ่มสร้างดอก-บำรุงผล สม่ำเสมอ จะออกดอกได้ตั้งแต่ข้อใบที่ 4-5 ข้อละ 1 ดอก แล้วออกไปเรื่อยๆทุกข้อใบตราบเท่าที่ต้นยังสูงขึ้น        

    - ตอบสนองต่อปุ๋ยน้ำชีวภาพ. ฮอร์โมน(ทำเอง).  ยิบซั่มธรรมชาติ. และกระดูกป่น. ดีมาก 

     สายพันธุ์ :

     ซูดาน บราซิล. เอส-2706. และ เอส-603 เอ็ม-3.       

     ขยายพันธุ์ :

     เพาะเมล็ด (ไม่กลายพันธุ์)            

     วิธีปลูก :

     เพาะเมล็ดในกระบะเพาะก่อน เมื่อต้นกล้าโตได้ใบ 3-4 ใบ หรือประมาณ 1 เดือนจึงย้ายไปปลูกในแปลงจริง หรือหยอดเมล็ดในแปลงจริงหลุมละ 2-3 เมล็ด                   

      ระยะปลูก :

      ระยะห่างระหว่างต้น-ระหว่างแถว  30 X 50ซม.

            เตรียมดิน อินทรีย์วัตถุ และแปลงปลูก

    1.ไถดินเปล่าให้ขี้ไถขนาดใหญ่ ทิ้งตากแดดจัด 15-20 แดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและกำจัดเหง้าวัชพืช

    2.ใส่อินทรีย์วัตถุ ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ + มูลค้างคาว) หมักข้ามปี.ยิบซั่มธรรมชาติ. กระดูกป่น. เศษพืชบดป่น. หว่านทั่วแปลงแล้วไถพรวนอินทรีย์วัตถุคลุกเคล้าลงดินให้ทั่วถึง

    3.ไถยกร่องลูกฟูก สันร่องกว้าง 1-1.20 ม. โค้งหลังเต่าสูงจากพื้นระดับ 30-50 ซม.ร่องทางเดินระหว่างสันแปลงกว้าง 1 ม. ลึก 20-30 ซม.จากพื้นระดับ

    4.คลุมหน้าแปลงด้วยฟางหรือหญ้าแห้งหนาๆ

    5.บ่มดินโดยรดด้วยน้ำ + จุลินทรีย์หน่อกล้วยหรือปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง ทุก 5-7 วัน ติดต่อกันนาน 1 เดือน เพื่อให้เวลาแก่จุลินทรีย์ปรับสภาพดิน กำจัดเชื้อโรค และย่อยสลายอินทรีย์วัตถุให้เป็นฮิวมิค แอซิด

    6.หยอดเมล็ดที่ริมสันลูกฟูกเป็น 2 แถวคู่ตรงกันหรือสลับฟันปลาก็ได้           

      หมายเหตุ :       
   
- กระเจี๊ยบแดงมีระบบรากตื้นจึงต้องการดินร่วนมากๆ แนะนำให้ใส่อินทรีย์วัตถุประเภทคงทน เช่น แกลบดิบ ปุ๋ยคอก เศษพืชป่น และสารปรับปรุงบำรุงดิน (ยิบซั่มธรรมชาติ) มากๆ และไถพรวนด้วยจอบหมุน (โรตารี่) หลายๆรอบ             

    - ดัดแปลงร่องทางเดินข้างสันลูกฟูกสำหรับปล่อยน้ำ (น้ำเปล่าหรือน้ำสารอาหาร) จากลาดสูงไปหาลาดต่ำเข้าไปหล่อในร่องได้ 1-2 เดือน/ครั้งจะดีมาก           

    - ติดตั้งระบบสปริงเกอร์เหนือยอด 30-50 ซม.สำหรับให้น้ำเปล่า น้ำสารอาหาร หรือ
สารสกัดสมุนไพรนอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของเนื้องานแล้วยังช่วยประหยัดทั้งเวลาและแรงงานอีกด้วย            

           เตรียมเมล็ดพันธุ์                       

    - เมล็ดพันธุ์ที่เคลือบสารเคมีกำจัดโรคให้ล้างน้ำจนสารเคมีนั้นออกให้หมดก่อน ส่วนเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ได้เคลือบสารเคมีไว้ก่อนให้ดำเนินการได้เลย           

    - นำเมล็ดแช่ในน้ำเปล่า คัดทิ้งเมล็ดลอย เก็บไว้เฉพาะเมล็ดจม           

    - นำเมล็ดจมที่เลือกได้ลงแช่ในน้ำ + ไคตินไตโตซานหรือจุลินทรีย์หน่อกล้วย + ธาตุรอง/ธาตุเสริม นาน 6-12 ชม. นำขึ้นผึ่งลมจนแห้ง แล้วจึงนำไปหยอดในแปลงจริง            

            เตรียมสารอาหารเสริม

    - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง           

    - ให้นมสัตว์สดหรือกลูโคส 1-2 เดือน/ครั้ง หลังจากเริ่มออกดอกแล้ว           

    - ให้มูลค้างคาว 1-2 กำมือ/เดือน โดยละลายน้ำรดโคนต้นจะช่วยให้ดอกดกและสีจัดขึ้น
    - ให้ฮอร์โมนน้ำดำ กับ แคลเซียม โบรอน 1 เดือน/ครั้ง จะช่วยให้ต้นไม่โทรม ได้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น       

      หมายเหตุ :           

      ฮอร์โมนธรรมชาติและฮอร์โมนวิทยาศาสตร์จะให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยก็ต่อเมื่อต้นมีสภาพความสมบูรณ์สูง          

      วิธีปลูก           

         รองก้นหลุมด้วยกากสะเดา หรือใบสาบเสือ หรือใบยูคาลิบตัส หรือตะไคร้หอม บดป่นตากแห้ง
1 กำมือ ผสมให้เข้ากันดีกับเนื้อดิน แล้วหยอดเมล็ดลงหลุมปลูกโดยตรง หลุมละ 2-3 เมล็ด

                       ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อกระเจี๊ยบแดง

    1.ระยะต้นเล็ก

      ทางใบ :

    - ให้น้ำ 100 ล. + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + สารสกัดสมุนไพร ทุก 5-7 วันฉีดพ่นให้เปียกโชกทั้งใต้ใบบนใบ ลงถึงพื้นพอหน้าดินชื้น  ช่วงเช้าแดดจัด               

    - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 3-5 วัน    

      ทางราก :

    - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7 (1-2 กก.)ไร่ ฉีดพ่นบริเวณโคนต้นหรือปล่อยไปกับสปริงเกอร์  ทุก 15-20 วัน               

    - ให้น้ำพอหน้าดินชื้น ทุก  5-7 วัน  

      หมายเหตุ :               

    - เริ่มให้เมื่อต้นแตกใบใหม่ 2-3 ใบ    

   2. ระยะก่อนออกดอก - ออกดอก - เก็บเกี่ยว

      ทางใบ :  

    - ให้น้ำ 100 ล.+ ฮอร์โมนไข่ 100 ซีซี. + เอ็นเอเอ. 25 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. ทุก 15-20  ฉีดพ่นพอเปียกใบ
    - ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก  2-3 วัน            

      ทางราก :                         

    - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24 (1-2 กก.)/ไร่ 2 รอบ สลับกับ 21-7-14(1-2 กก.)/ไร่ อีก 1 รอบ ห่างกันรอบละ 1 เดือน ด้วยการฉีดพ่นบริเวณโคนต้น 
    - ให้น้ำพอหน้าดินชื้น ทุก 20-30 วัน           

      หมายเหตุ :               

    - เริ่มให้เมื่ออายุต้นก่อนออกดอก 5-7 วัน จนถึงเก็บเกี่ยว
    - ให้ฮอร์โมนน้ำดำ  กับ  แคลเซียม โบรอน  เดือนละ 1 ครั้ง

view