ขั้นตอนที่ 1 (วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ)
ปลาทะเลสด 20 กก.
กากน้ำตาล 5 ล.
ผงเอ็นไซม์ 250 กรัม
จุลินทรีย์ 100 กรัม
เตรียมถังพลาสติกขนาดจุ 200 ล. ใช้ปลาสดใหม่ทั้งตัว บดให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะละเอียดได้ด้วยเครื่องบดโมลิเน็กซ์ยักษ์ หรือเครื่องบดทั่วๆไป แล้วใส่ส่วนผสมทุกตัวจนครบ คนเคล้าให้เข้ากันดี ถ้าส่วนผสมข้นมากจนบดไม่ได้ให้เติมน้ำมะพร้าวเล็กน้อยพอเหลวให้เครื่องบดทำ งานได้ เสร็จแล้วปิดฝาพอหลวมเก็บในอุณหภูมิห้อง หมักทิ้งไว้ 3 เดือน ระหว่างหมัก 3 เดือนนี้ให้คนวันละครั้ง......ครบกำหนด 3 เดือนแล้วจะพบว่า ส่วนผสมต่างๆในถังหมักจะเหลวเป็นน้ำ นั่นคือ "อะมิโนโปรตีน" มีกลิ่นคาวปลาแรงกว่ากากน้ำตาล พร้อมปรุงต่อขั้นที่ 2
ขั้นที่ 2 (วัสดุส่วนผสมและวิธีทำ)
อะมิโนโปรตีน. ที่ได้จากขั้นตอนที่ 1 ซึ่งจะมีปริมาณประมาณ 20 ล.ของถัง 200 ล. ให้เติมน้ำมะพร้าวลงไป 160 ล. คนเคล้าให้เข้ากันดี แล้วเติมอากาศด้วยปั๊ออกซิเจน เฉพาะช่วงกลางวัน เช้าถึงเย็น นานติดต่อกัน 7 วัน....ระหว่างเติมอากาศหากหยุดเติมจะพบว่า วัสดุส่วนผสมต่างๆ ช่วงแรกๆจะลอยอยู่ที่ผิวหน้า ครั้นเวลาผ่านไปประมาณ 7 วัน ส่วนผสมเหล่านั้นจะจมลงก้นถังทั้งหมด เมื่อเห็นว่าส่วนผสมทั้งหมดจมลงก้นถังแล้วให้เติม.....
น้ำมะพร้าว 160 ล.
ไขกระดูก 10 ล.
เลือด 10 ล.
มูลค้างคาว 5 ล.
นม 5 ล.
สาหร่ายทะเล 500 กรัม
ฮิวมิค แอซิด 500 กรัม
บี-1 500 กรัม
จุลินทรีย์ 100 กรัม
21-0-0 500 กรัม
หมายเหตุ :
- ไขกระดูก. เลือด. มูลค้างคาว. นม. หมักแยกล่วงหน้านานข้ามปีจนพร้อมใช้งาน คนเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี ปิดฝาพอหลวม เก็บในร่ม อุณหภูมิห้อง เติมอากาศช่วง 7 วันแรก ระหว่างเติมอากาศจะพบว่ามีฟองเกิดขึ้น ถ้าลูกฟองมีขนาดใหญ่ให้เติมอากาศต่อ ไปเรื่อยๆ จนลูกฟองมีขนาดเล็กละเอียด จึงหยุดเติมอากาศ แล้วหมักทิ้งไว้ข้ามปี ระหว่างนี้ไม่ต้องคนเอาส่วนผสมก้นถังขึ้นมา แต่ให้คนเฉพาะส่วนผสมบางส่วนที่ลอยหน้าเท่านั้น ระยะเวลาหมักยิ่งหลายปียิ่ง ดี ก็จะได้ "น้ำหมักระเบิดเถิดเทิงดิบ" พร้อมปรุง ก่อนใช้งานจริงน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงดิบที่ผ่านการหมักข้ามปีแล้วจะมีกลิ่น แอลกอฮอร์ หากใช้ไม้พายค่อยๆงัดกากที่อยู่ก้นถังขึ้นมาดู จะพบว่าส่วนผสมที่อาจจะหยาบๆในครั้งแรกนั้นได้กลายสภาพเป็นของเหลวเหมือน วุ้น.....และการไม่คนเอาส่วนผสมก้นถังขึ้นมาก็เพื่อ เปิดโอกาสให้จุลินทรีย์ กลุ่มไม่ต้องการอากาศ (บาซิลัสส์) ได้ดำเนินการย่อยสลายส่วนผสมได้เต็มที่ ทั้งนี้จุลินทรีย์กลุ่มไม่ต้องการ อากาศมีประสิทธิภาพในการย่อยสลาย (เอ็นไซม์) อินทรีย์วัตถุเหนือกว่าจุลินทรีย์กลุ่มต้องการอากาศ นอกจากนี้ยังพบสาร เหลวที่เป็นเมือกจำนวนมากนั่น คือ "ฮอร์โมนไซโตคินนิน" สารที่มีประโยชน์ต่อพืชอย่างมาก
- สารอาหารพืชที่พึงมีในน้ำหมักระเบิดเถิดเทิงดิบเป็นสารอาหารประเภท"อินทรีย์ สาร" ที่ถูกจุลินทรีย์ย่อยสลายออกมาจากวัสดุส่วนผสมนั่นเอง ปริมาณสารอาหารที่มีหรือที่ได้เมื่อคิดปริมาณเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วถือว่าไม่ มากนัก ในพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียวอาจจะเพียงพอต่อการนำ
ไปใช้เพื่อการเจริญเติบโตแต่ในพืชยืนต้นขนาดใหญ่ซึ่งต้องการใช้สารอาหารใน ปริมาณมากขึ้นนั้นอาจจะไม่พอเพียง.....จากหลักการและเหตุผลที่ว่า น้ำหมัก ชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง มีปริมาณเปอร์เซ็นต์ของอาหารน้อยถึงน้อยมากแต่ เมื่อได้เติมเพิ่มปริมาณปุ๋ยที่เป็นอนินทรีย์สารจนได้ปริมาณเปอร์เซ็นต์ตาม ต้องการ จึงสามารถเรียกชื่อใหม่ว่า "ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง" ได้อย่างมั่นใจ
- ทุกขั้นตอนของการหมักไม่มีการเติม "น้ำเปล่า" เพราะในน้ำเปล่านอกจากไม่มีสารอาหารแล้วยังทำให้เปอร์เซ็นต์ของสารอาหารที่ พึงมีเจือจางลงไปอีก กับทั้งน้ำเปล่าเป็นต้นสาเหตุทำให้การหมักเกิดเน่าเหม็นอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 3 (น้ำหมักระเบิดเถิดเทิงสูตร -?-)
ความหมายของเครื่องหมาย " -?- " คือ สูตรของปุ๋ยธาตุหลัก ซึ่งจะต้องเลือกสูตรที่ตรงกับชนิดและระยะ พัฒนาการของพืชที่จะใช้โดยเฉพาะ และ "ธาตุอาหารเน้น" หมายถึง ธาตุรองหรือธาตุเสริม ตัวใดตัวหนึ่งหรือทั้งสองตัว ที่จำเป็นต้องเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับพืชบางชนิด......โดยการปฏิบัติดังนี้
น้ำหมักระเบิดเถิดเทิงดิบ 100 ล.
ปุ๋ยธาตุหลัก (ทางราก) 10-20 กก.
ธาตุรอง/ธาตุเสริม 1-2 กก.
ธาตุอาหารเน้น 1-2 กก.
คนเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดีแล้วได้ "ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิด เถิดเทิง" พร้อมใช้งานได้เลย อายุเก็บไม่ควรเกิน 6 เดือน
อัตราใช้และวิธีใช้ :
- ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 5-10 ล. / ไร่ (นาข้าว พืชไร่ พืชน้ำ ผักสวนครัว.....ช่วงเตรียมดิน)
- ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 50 ซีซี. / น้ำ 20 ล. /7-10 วัน ให้ทางดิน (ไม้ผลยืนต้น)
- ปุ๋ยน้ำชีวภาพสูตรระเบิดเถิดเทิง 10 ล. / อินทรีย์วัตถุ 1 ตัน ในการทำปุ๋ยอินทรีย์
ตรวจสอบ - แก้ไข - ปรับปรุง
สี. กลิ่น. กาก. ฝ้า. ฟอง. รูปลักษณ์. ปริมาณ. อีซี. ถพ. พีเอช.